เวลาที่คุณไปซื้อเพชรกับร้านขายเพชรที่มีใบเซอร์ gia บางครั้งร้านขายเพชรอาจไม่ได้บอกข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับใบเซอร์ ไม่ได้สอนอ่านใบเซอร์ในแต่ละส่วน ซึ่งคุณต้องศึกษาเองว่ารายละเอียดต่างๆ ในใบเซอร์คืออะไร มีอะไรบ้าง และวันนี้เราก็มีข้อมูลดีๆ มาฝาก เกี่ยวกับการอ่านใบเซอร์ gia ในแต่ละส่วนแบบคร่าวๆ เพื่อให้คุณเข้าใจมากขึ้น
1.ส่วนบนของใบเซอร์
ส่วนบนสุดของใบเซอร์จะเป็นชื่อย่อของสถาบันและโลโก้ของสถาบันที่ออกใบรับรองเพชร เพื่อการันตีว่าเป็นเพชรแท้ นอกจากสถาบัน gia แล้วยังมีสถาบันอื่นๆ ที่น่าเชื่อถือ เช่น hrd, igi เป็นต้น
2.เลขใบเซอร์ รูปทรงและสัดส่วนเพชร
ในส่วนที่สองจะเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับเลขใบเซอร์ หรือซีเรียลนัมเบอร์เป็นข้อมูลที่ระบุไว้ในเพชรแต่ละเม็ด เลขจะต้องตรงกันกับการเลเซอร์ขอบเพชร ต่อมาเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับรูปทรงเพชรและสัดส่วนของเพชร ส่วนมากคนนิยมซื้อเพชรทรงกลมโดยระบุเป็นภาษาอังกฤษว่า Round Brilliant บางครั้งร้านขายเพชรอาจไม่ได้อธิบายรายละเอียดในส่วนนี้ให้คุณทราบ ทำให้คุณต้องศึกษาเองและสังเกตเอง
3. 4C คือส่วนสำคัญที่สุด
ส่วนต่อมาเป็นส่วนที่สำคัญมากๆ นั่นคือรายละเอียดเกี่ยวกับ 4C เป็นหลักเกณฑ์ที่ใช้แบ่งเกรดเพชรหรือแบ่งคุณภาพของเพชร ประกอบไปด้วย Carat หมายถึงน้ำหนักของเพชร มีหน่วยเป็นกะรัต Color สีของเพชร มีตั้งแต่ D-Z Clarity ความสะอาดของเพชร มีตั้งแต่ VVS1/2 – VS1/2 และ Cut หมายถึงการเจียระไนเพชร มีตั้งแต่ Excellent จนถึง Poor
4.ข้อมูลเพิ่มเติมและหมายเหตุ
ในส่วนนี้เป็น 2 ใน 3 ปัจจัยของเพชรที่จะได้รับ 3 Excellent เพชรที่เล่นกับแสงไฟได้ดี นั่นคือความเรียบเนียนของพื้นผิวเพชรความสมมาตรของหน้าเพชรทั้งหมดและ Fluorescence ปฏิกิริยาเพชรที่แสดงออกมาเมื่อมีการกระตุ้นด้วยแสง UV นอกจากนั้นยังมีข้อมูลของ Inscription ส่วนนี้บอกว่าบนขอบเพชรมีการยิงเลเซอร์อะไรลงไปบ้าง เพชรที่มีใบเซอร์ gia จะมีตัวเลข 10 หลักซึ่งตัวเลขนี้จะต้องตรงกันกับ GIA Report Number ในส่วน Comments เป็นการระบุรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อขยายความในส่วนของ Clarity อีกที
นี่คือรายละเอียดสำคัญแบบคร่าวๆ รายละเอียดที่จะปรากฏในใบเซอร์ gia ซึ่งคุณควรศึกษาในแต่ละส่วนเพื่อให้คุณอ่านใบเซอร์เป็นและได้เพชรที่ตรงตามสเปคที่ต้องการ เรื่องเหล่านี้บางครั้งร้านขายเพชรอาจไม่ได้อธิบายให้คุณรู้ทั้งหมด ดังนั้นต้องศึกษาหาข้อมูลเอง นอกจากนั้นยังมีส่วนของแผนภาพตำหนิที่คุณควรศึกษาไว้ด้วย